ปัญหาฝ้าเป็นจุดบกพร่องบนใบหน้าที่สังเกตเห็นได้ชัด พอเป็นแล้วก็แก้ไขยาก หลายคนอาจใช้เครื่องสำอางช่วยปกปิด แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาฝ้าจากต้นเหตุ ก่อนจะเลือกวิธีการรักษาฝ้า เราควรทำความเข้าใจถึงประเภทของฝ้าให้ดีก่อน เพื่อให้การดูแลรักษาตรงจุดและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับฝ้าแต่ละแบบกันค่ะ ไปดูกันเลยว่าฝ้าแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และมีวิธีการรักษาฝ้าแบบไหนที่เหมาะสมสำหรับฝ้าแต่ละแบบกัน
ฝ้า คืออะไร
ฝ้า คือ ลักษณะของสีผิวที่คล้ำ ดำ เป็นปื้น มีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปยังสีน้ำตาลเข้ม สามารถฝ้าพบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะในสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่รับประทานยาหรือใช้ยาคุมกำเนิด และสตรีที่รับการรักษาด้วยฮอร์โมน แต่สามารถพบได้ในผู้ชายเช่นเดียวกัน หรือในคนที่สัมผัสแสงแดดบ่อยๆ และสามารถพบได้ง่ายในบริเวณ หน้าผาก โหนกแก้ม
ฝ้า มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร?
ฝ้าสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะและตำแหน่งที่เกิดบนชั้นผิว การรู้จักฝ้าแต่ละประเภทช่วยให้คุณเลือกวิธีดูแลและรักษาได้เหมาะสมมากขึ้น
ฝ้าแดด
เป็นปัญหาฝ้าที่เกิดขึ้นได้ง่ายที่สุดเพราะเกิดจากแสงแดด และรังสีหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรศัพท์ มักมีลักษณะ เป็นรอยคล้ำสีน้ำตาล แดง เทา และหากไม่ได้รับการรักษา หรือไม่ทาครีมกันแดดเพื่อป้องกัน สีของฝ้าแดดก็จะเข้มขึ้นเรื่อยๆ
ฝ้าลึก
เกิดจากการที่เมลานินสร้างเม็ดสีมากผิดปกติบริเวณชั้นหนังแท้ ซึ่งได้รับการดูแลรักษายากกว่าฝ้าตื้น มักจะมีสีน้ำตาลอ่อน สีเทา และมักจะกลืนไปกับผิวหน้าเรา ซึ่งฝ้าชนิดนี้ อาจจะต้องพบแพทย์เพื่อดูแลรักษากันต่อไป เพราะการทาครีมอย่างเดียวอาจจะไม่ช่วย
ฝ้าตื้น
เกิดจากการที่เมลานินสร้างเม็ดสีมากผิดปกติบริเวณผิวหนังชั้นนอก มักเป็นสีน้ำตาลเข็มหรือดำ และมีลักษณะเป็นปื้นๆชัด สามารถรักษาได้ด้วยครีมทาฝ้า
ฝ้าเลือด
มีลักษณะสีแดงปนน้ำตาล หรือมีลักษณะคล้ายเส้นเลือด ฝ้าเลือดเกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง ทำให้เส้นเลือดฝอยแตก และกระจุกบริเวณใต้ผิวหนัง ฝ้าเลือดเกิดได้จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การรับประทานยา และการโดนแสงแดดมากเกินไป
รักษาฝ้า อย่างไรให้หายขาด?
วิธีป้องกันและรักษาฝ้า มีทั้งการทาครีมบำรุง รวมถึงการรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งผลลัพธ์และระยะเวลาการรักษาก็จะแตกต่างกันออกไป
1. เลเซอร์รักษาฝ้า
การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่ใช้พลังงานความร้อนเพื่อกำจัดเม็ดสีเมลานินที่เกิดขึ้นในบริเวณฝ้าโดยตรง โดยเลเซอร์ที่นิยมใช้ได้แก่ เลเซอร์ Q-Switched ND และ Picosecond Laser หลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ อาจมีการตกสะเก็ดและทำให้ผิวไวต่อแสง ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการตากแดด และดูแลบำรุงผิวอย่างใกล้ชิดในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการทำเลเซอร์
อีกหนึ่งวิธีในการรักษาฝ้าคือการใช้ IPL (Intense Pulsed Light) ซึ่งเป็นการใช้คลื่นแสงหลายความยาวคลื่นยิงไปยังผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อนและทำลายเม็ดสีที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ ส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นและฝ้าลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด
2. ทำทรีตเมนต์
ทรีตเมนต์ Chemical Peeling คือการใช้กรดอ่อน ๆ เพื่อทำการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนที่เสียหายให้หลุดลอกออกไป พร้อมกระตุ้นให้ผิวใหม่สร้างขึ้นมาแทนที่ การทำ Chemical Peeling ช่วยลดฝ้าและกระได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาฝ้ากระแบบตื้น วิธีนี้ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสและเรียบเนียนมากขึ้น
3. กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี
การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีขนาดเล็ก จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมทั้งฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ฝ้าตื้น กระ และจุดด่างดำดูจางลง ช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้น
4. ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารต้านเม็ดสี
การทาครีมที่มีส่วนประกอบของ AHA ,อาร์บูติน ,กรดโคจิก จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ กระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออกและเผยผิวใหม่ขึ้นมาแทน ทำให้ฝ้าจางลง ผิวหน้าดูสม่ำเสมอได้ แต่ข้อเสียต้องทาครีมอย่างสม่ำเสมอ และอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
แนวทางการดูแลผิวหน้าหลังการรักษา
สิ่งสำคัญคือการดูแลผิวหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้ากลับมาเป็นอีก มีเคล็ดลับดังนี้
1. ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงพอ และมีส่วนผสมป้องกันแสงแดดได้ทั้ง UVA และ UVB
2. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัด โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. หากจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้ง ควรสวมหมวก ร่ม และเสื้อแขนยาว
3. รักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าอยู่เสมอ ด้วยการทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี และกรดไฮยาลูรอนิก เพื่อกระตุ้นการสร้างเม็ดสีใหม่
4. ดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8 แก้วขึ้นไป เพื่อช่วยขจัดของเสียและรักษาสมดุลในร่างกาย
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและผิวพรรณให้สดใสอยู่เสมอ
การรักษาฝ้า อาจไม่สามารถเห็นผลชัดได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ถ้าหากใช้วิธีที่เหมาะสมและดูแลผิวอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้ฝ้าที่เป็นอยู่ค่อยๆ จางลง ทำให้ผิวหน้ากลับมาดูสว่างใสและเรียบเนียนอีกครั้ง หากใครที่กำลังมองหาคลินิกรักษาฝ้าภูเก็ต เราขอแนะนำ Phuket Skin Center รักษาปัญหาฝ้า กระ บนใบหน้าได้อย่างตรงจุด เห็นผลได้อย่างชัดเจน พร้อมให้คำแนะนำในทุกขั้นตอน มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณอย่างแน่นอน