การที่จะมีเว็บไซต์ดีๆ ซักเว็บนึง เพื่อใช้ทำ SEO มีคำศัพท์มากมายที่จใช้เพื่ออธิบายถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ หนึ่งในคำที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ DA (Domain Authority) และ PA (Page Authority) สองตัวชี้วัดนี้ช่วยให้คุณสามารถประเมินความแข็งแกร่งของเว็บไซต์หรือหน้าเว็บในด้าน SEO ได้อย่างชัดเจน แต่ DA และ PA คืออะไร และทำไมถึงมีความสำคัญต่อ SEO ? สามารถหาคำตอบได้ที่บทความนี้
DA/PA คืออะไร?
Domain Authority (DA) และ Page Authority (PA) เป็นตัวชี้วัดที่พัฒนาโดยบริษัท Moz ซึ่งใช้ประเมินศักยภาพของเว็บไซต์ในการจัดอันดับบนเครื่องมือค้นหา โดย DA ใช้ประเมินคุณภาพของทั้งโดเมน ในขณะที่ PA จะเจาะจงไปที่หน้าเว็บเฉพาะหน้า
- DA (Domain Authority) เป็นคะแนนที่แสดงถึงความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งของโดเมน ซึ่งคำนวณจากหลายปัจจัย เช่น จำนวนและคุณภาพของลิงก์ที่เชื่อมโยงมาจากเว็บไซต์อื่นๆ DA มีคะแนนเต็มที่ 100 คะแนน ยิ่ง DA สูง ก็ยิ่งมีโอกาสที่เว็บไซต์จะติดอันดับในหน้าผลการค้นหา (SERP) ของ Google
- PA (Page Authority) เป็นคะแนนที่คล้ายกับ DA แต่แตกต่างกันที่มันใช้ประเมินความแข็งแกร่งของหน้าเว็บแต่ละหน้าโดยเฉพาะ โดยคำนวณจากลักษณะและคุณภาพของลิงก์ที่เชื่อมโยงเข้ามายังหน้าเว็บนั้นๆ
DA/PA มีผลต่อ SEO อย่างไร?
DA และ PA มีบทบาทสำคัญในการวัดคุณภาพและประสิทธิภาพของเว็บไซต์ในเรื่อง SEO โดยคะแนนที่สูงขึ้นของทั้ง DA และ PA มักจะสอดคล้องกับการที่เว็บไซต์หรือหน้าเว็บได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าในหน้าผลการค้นหาของ Google นี่คือผลลัพธ์ที่ส่งผลต่อ Organic Traffic หรือปริมาณผู้เข้าชมเว็บไซต์จากการค้นหา (ไม่ได้เกิดจากการจ่ายเงินโฆษณา)
- DA/PA สูงช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่ม Organic Traffic เมื่อเว็บไซต์มี DA/PA สูง โอกาสที่ผู้คนจะคลิกเข้าชมเว็บไซต์จากการค้นหาผ่านเครื่องมือค้นหาก็เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับผู้เข้าชมมากขึ้นโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
- ส่งผลต่อการสร้างลิงก์ย้อนกลับ (Backlink) เว็บไซต์ที่มี DA สูงมักจะได้รับความน่าเชื่อถือจากเว็บไซต์อื่นๆ ซึ่งส่งผลให้มีลิงก์ย้อนกลับจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพมาสู่เว็บไซต์ของคุณมากขึ้น การมีลิงก์ย้อนกลับคุณภาพช่วยเพิ่มคะแนน SEO และปรับปรุงอันดับใน SERP
- การจัดอันดับที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว DA และ PA ที่สูงช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ เมื่อมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้วยการเพิ่มเนื้อหาที่มีคุณภาพและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน เว็บไซต์จะมีโอกาสปรับปรุงการจัดอันดับ SEO ได้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจัยที่มีผลต่อ DA/PA
การเพิ่มคะแนน DA และ PA ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สามารถทำได้ผ่านการปรับปรุงหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ SEO ซึ่งรวมถึง:
- คุณภาพของลิงก์ย้อนกลับ
ลิงก์ย้อนกลับจากเว็บไซต์ที่มี DA สูงจะช่วยเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์ของคุณ การสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือสูงจึงเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่ม DA และ PA - การปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์
เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างที่ชัดเจน ทำให้เครื่องมือค้นหาสามารถทำความเข้าใจและจัดอันดับได้ง่ายขึ้น การใช้งาน URL ที่สะอาด การจัดการ เมตาแท็ก และ การใช้งานคำสำคัญ (Keywords) อย่างเหมาะสมล้วนมีผลต่อการเพิ่มคะแนน SEO - คุณภาพของเนื้อหา
การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์และกระตุ้นให้ผู้เข้าชมกลับมาชมซ้ำ อีกทั้งเนื้อหาที่มีการแชร์และเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ยิ่งช่วยเพิ่มลิงก์ย้อนกลับและสร้าง Organic Traffic ได้มากขึ้น - ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์
ความเร็วเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อคะแนน DA/PA การที่เว็บไซต์โหลดเร็วทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสะดวกสบายและเป็นที่ชื่นชอบของเครื่องมือค้นหา ควรปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้มีความเร็วที่เหมาะสมอยู่เสมอ
วิธีการตรวจสอบ DA/PA
การตรวจสอบ DA และ PA ของเว็บไซต์สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องมือออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อติดตามคะแนนเหล่านี้
- Moz Domain Authority Checker
Moz เป็นผู้พัฒนาคะแนน DA/PA และมีเครื่องมือฟรีที่สามารถใช้ตรวจสอบคะแนนของเว็บไซต์ได้ เพียงแค่ใส่ URL ของเว็บไซต์ลงในช่องค้นหา คุณก็จะได้รับคะแนน DA/PA ของเว็บไซต์นั้น - Ahrefs
Ahrefs เป็นเครื่องมือ SEO ที่สามารถใช้ตรวจสอบคะแนน DA และ PA รวมถึงการวิเคราะห์ลิงก์ย้อนกลับและการจัดอันดับในเครื่องมือค้นหา - SEMrush
SEMrush เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ SEO ที่นิยมใช้สำหรับการวิเคราะห์เว็บไซต์ รวมถึงการตรวจสอบ DA/PA และการทำการวิเคราะห์คู่แข่ง
สรุปได้ว่า DA (Domain Authority) และ PA (Page Authority) เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยประเมินศักยภาพของเว็บไซต์ในการจัดอันดับบนเครื่องมือค้นหา ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการเพิ่ม Traffic มายังเว็บไซต์ของคุณ การเพิ่มคะแนน DA/PA ต้องอาศัยการปรับปรุงหลายๆ ปัจจัย เช่น การสร้างลิงก์ย้อนกลับที่มีคุณภาพ การพัฒนาเนื้อหาที่น่าสนใจ และการปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์ การตรวจสอบและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสสูงขึ้นในการติดอันดับบน Google และเพิ่มผู้เข้าชมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด